คำอธิบายเกี่ยวกับ NFT Trading Cards: การ์ดซื้อขายดิจิทัลทำงานอย่างไรบนบล็อกเชนในปี 2025

คำอธิบายเกี่ยวกับ NFT Trading Cards: การ์ดซื้อขายดิจิทัลทำงานอย่างไรบนบล็อกเชนในปี 2025

การ์ดสะสมดิจิทัลเป็นเวอร์ชันเสมือนจริงของการ์ดสะสมแบบดั้งเดิม แทนที่จะเป็นสิ่งของที่จับต้องได้ การ์ดเหล่านี้จะอยู่บนโลกออนไลน์ทั้งหมดและจัดการผ่านแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์ม และกระเป๋าเงินดิจิทัล การ์ดสะสมดิจิทัลสามารถประกอบด้วยรูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว สถิติผู้เล่น คำอธิบาย และองค์ประกอบแบบโต้ตอบได้ โดยทั่วไปแล้วจะใช้ในเกมการ์ดสะสม กลุ่มแฟนคลับกีฬา แฟรนไชส์บันเทิง และระบบนิเวศของวัฒนธรรมป๊อป

แตกต่างจากบัตรสะสมภาพแบบดั้งเดิม บัตรดิจิทัลนั้นง่ายต่อการเผยแพร่ เข้าถึงได้ทันที และสามารถแลกเปลี่ยนได้ทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงนี้ได้พลิกโฉมตลาดบัตรสะสมภาพแบบดั้งเดิม โดยขจัดข้อจำกัดทางกายภาพ ในขณะที่ยังคงรักษาเสน่ห์หลักของการสะสมเอาไว้

คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 ตลาดของสะสมดิจิทัลทั่วโลกจะมีมูลค่ามากกว่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยการ์ดสะสมจะเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีการเติบโตเร็วที่สุด การเติบโตของแพลตฟอร์มมือถือและตลาดซื้อขาย NFT ได้เร่งการยอมรับ โดยเฉพาะในกลุ่มนักสะสมรุ่นใหม่ที่สะดวกสบายกับการเป็นเจ้าของแบบดิจิทัลมากกว่าการจัดเก็บในรูปแบบกายภาพ

NFT Trading Card คืออะไร และแตกต่างจาก Digital Trading Card อย่างไร

การ์ดสะสม NFT ยกระดับแนวคิดของการ์ดสะสมดิจิทัลไปอีกขั้นด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ในขณะที่การ์ดดิจิทัลทั่วไปสามารถคัดลอกได้ไม่จำกัด การ์ด NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งบันทึกไว้ในบล็อกเชน การ์ดแต่ละใบจะได้รับรหัสประจำตัวที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งพิสูจน์ถึงความถูกต้อง ความเป็นเจ้าของ และความหายาก

เนื่องจาก NFT Trading Card ถูกจัดเก็บไว้บนบล็อกเชน จึงไม่สามารถทำซ้ำหรือแลกเปลี่ยนแบบหนึ่งต่อหนึ่งได้เหมือนไฟล์ทั่วไป ทำให้ NFT มีลักษณะคล้ายกับบัตรสะสมแบบดั้งเดิม แต่ปราศจากความเสี่ยงจากความเสียหาย การสูญหาย หรือการปลอมแปลง

การ์ดสะสม NFT แต่ละใบมีลายเซ็นเข้ารหัสลับที่จัดเก็บไว้ในบล็อกเชน ลายเซ็นนี้ใช้ติดตามประวัติการเป็นเจ้าของและยืนยันว่าการ์ดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน NFT เฉพาะ ส่งผลให้การ์ดสะสม NFT เป็นของสะสมดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใครและมีที่มาที่ไปที่ชัดเจน

ประโยชน์ของการ์ดซื้อขาย NFT สำหรับธุรกิจและผู้สร้างสรรค์

ปัจจุบันบริษัทหลายแห่งใช้การ์ดสะสม NFT เป็นเครื่องมือทางการตลาดและสร้างความภักดีของลูกค้า แบรนด์ต่างๆ สามารถให้รางวัลแก่ผู้ใช้ด้วยการ์ดดิจิทัลจำนวนจำกัด ออกซีรีส์การ์ดสะสม NFT หรือสร้างประสบการณ์การสะสมที่กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ

ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจมอบบัตร NFT รุ่นจำกัดให้กับลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายถึงเกณฑ์ที่กำหนด หรือเข้าร่วมแคมเปญ บัตรเหล่านี้สามารถนำไปซื้อขายต่อในตลาด NFT ได้ในภายหลัง ทำให้มีมูลค่ารองที่แท้จริง ในขณะเดียวกันก็เสริมสร้างความภักดีต่อแบรนด์

วิธีการทำงานของ NFT Trading Cards บนบล็อกเชน

การ์ด NFT ทำงานเหมือนกับ NFT อื่นๆ การ์ดจะถูกสร้างขึ้น (ผลิต) บนบล็อกเชน นำไปลงขายในตลาด NFT เช่น OpenSea หรือ Magic Eden และเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่รองรับบล็อกเชนนั้นๆ ปัจจุบันการ์ด NFT ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum แม้ว่ามูลค่าและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบล็อกเชนที่ใช้

ภายในปี 2025 Ethereum ยังคงครองความเป็นผู้นำในกิจกรรม NFT โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60% ของปริมาณการซื้อขาย NFT ทั้งหมด ในขณะที่บล็อกเชนทางเลือกอื่นๆ เช่น Solana และ Polygon กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าและการทำธุรกรรมที่รวดเร็วกว่า

ในการซื้อ NFT ผู้ใช้จะเลือกการ์ดบนแพลตฟอร์ม NFT เชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัลที่รองรับบล็อกเชน และทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์โดยใช้สกุลเงินดิจิทัล หรือในบางกรณีก็ใช้สกุลเงินทั่วไป จากนั้นกรรมสิทธิ์ในการ์ดดิจิทัลจะถูกบันทึกไว้ในบล็อกเชน

การ์ด NFT สามารถมอบเป็นของขวัญ เก็บไว้ใช้ในระยะยาว หรือซื้อขายได้อย่างอิสระ การ์ดบางใบยังมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น สิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรม ไอเทมในเกม หรือชุมชนพิเศษ ในปี 2025 คาดว่า NFT ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยจะคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของกิจกรรมการซื้อขาย NFT ทั้งหมด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากสินทรัพย์เก็งกำไรเพียงอย่างเดียวไปสู่สินทรัพย์ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น

การ์ด NFT

โครงการการ์ดซื้อขาย NFT และกรณีการใช้งานในตลาดการ์ดดิจิทัล

เนื่องจากความนิยมในตลาด NFT เพิ่มมากขึ้น อุตสาหกรรมหลายแห่งจึงได้ทดลองใช้บัตรซื้อขายดิจิทัล

NBA Top Shot กลายเป็นหนึ่งในโครงการการ์ดสะสม NFT ที่โดดเด่นที่สุด โดยการเปลี่ยนช่วงเวลาสำคัญจากเกม NBA ให้กลายเป็นของสะสมดิจิทัล คลิปไฮไลท์จากเกม NBA เหล่านี้ทำให้ผู้ใช้หลายล้านคนได้รู้จักกับการ์ดกีฬา NFT ในช่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุด NBA Top Shot มียอดขายรวมเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ และในปี 2025 ก็ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มกีฬา NFT ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด

แบรนด์แฟชั่นอย่าง Nike ได้สำรวจการใช้บัตร NFT เป็นหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของสำหรับสินค้าทางกายภาพ โดยเชื่อมโยงรองเท้าผ้าใบกับบัตรดิจิทัลที่สามารถซื้อขายหรือแสดงผลออนไลน์ได้ แพลตฟอร์มเกมอย่าง CryptoKitties แสดงให้เห็นถึงความต้องการสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถสะสมได้ในระยะเริ่มต้น ขณะที่โครงการที่ขับเคลื่อนด้วยความภักดีของลูกค้า เช่น Blastoff และ NextPlane ใช้บัตร NFT เพื่อให้รางวัลแก่ลูกค้าที่กลับมาใช้บริการซ้ำ

ภายในปี 2025 แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่กว่า 30% ที่ทดลองใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนได้ทดสอบโปรแกรมสะสมแต้มหรือโปรแกรมสะสมของ NFT แล้ว ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าบัตรสะสม NFT สามารถผสมผสานของสะสมดิจิทัล ประโยชน์ใช้สอย และการมีส่วนร่วมในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร

การ์ดสะสม NFT ของทรัมป์ในโลก NFT

การ์ดสะสม NFT กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อมีการวางจำหน่ายการ์ดสะสม NFT ของโดนัลด์ ทรัมป์ การ์ดเหล่านี้มีภาพและช่วงเวลาที่เกี่ยวข้องกับโดนัลด์ ทรัมป์ และถูกขายเป็นส่วนหนึ่งของชุดสะสม NFT เช่นเดียวกับโครงการ NFT อื่นๆ มูลค่าของพวกมันผันผวนตามความต้องการและสภาวะตลาด

มูลค่าของการ์ดสะสม NFT ในตลาดการ์ดสะสม

มูลค่าของการ์ดสะสม NFT มีความผันผวนสูง เช่นเดียวกับการ์ดสะสมทั่วไป ราคาขึ้นอยู่กับความหายาก ความต้องการ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และความสนใจของชุมชน

คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 เฉพาะส่วนของตลาดการ์ดสะสม NFT เพียงอย่างเดียวจะสร้างมูลค่าการซื้อขายต่อปีมากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การ์ด NFT บางใบขายได้ในราคาสูงมากในตลาด NFT ในขณะที่บางใบยังคงเป็นของสะสมดิจิทัลเฉพาะกลุ่ม มูลค่าของการ์ดสะสม NFT นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวและมักผันผวน

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อมูลค่า ได้แก่ ความหายาก ชื่อเสียงของผู้สร้าง ความต้องการภายในกลุ่มแฟนคลับ และประโยชน์ใช้สอย การ์ดที่ปลดล็อกการเล่นเกม การเข้าถึงสมาชิก หรือประสบการณ์พิเศษ มักจะมีมูลค่าในระยะยาวสูงกว่า ข้อมูลจากปี 2025 แสดงให้เห็นว่า NFT ที่มีประโยชน์ใช้สอยในตัว จะรักษามูลค่าได้โดยเฉลี่ย 2-3 เท่า เมื่อเทียบกับการ์ดดิจิทัลที่ใช้เพื่อการตกแต่งเพียงอย่างเดียว

วิธีใช้งาน NFT Cards ในทางปฏิบัติในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัล

เพื่อให้เข้าใจการ์ดสะสม NFT ได้ดีขึ้น เราต้องเปรียบเทียบกับการ์ดสะสมแบบดั้งเดิม เช่น การ์ดโปเกมอน หรือของที่ระลึกกีฬา การ์ดจริงจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากความหายาก ความคิดถึง และสภาพ การ์ดสะสม NFT จำลองกลไกเหล่านี้โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน

เมื่อคุณซื้อการ์ดสะสม NFT บล็อกเชนจะบันทึกความเป็นเจ้าของไว้ แม้ว่าภาพจะสามารถคัดลอกได้ แต่บล็อกเชนจะพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลดั้งเดิม นี่คือสิ่งที่ทำให้การ์ดสะสม NFT เป็นของสะสมดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร

ข้อดีที่สำคัญของ NFT Trading Cards เมื่อเทียบกับการ์ดจริง

การ์ดสะสม NFT มีข้อดีที่ชัดเจนกว่าการ์ดจริง การเป็นเจ้าของมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ การ์ดสามารถซื้อขายได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องจัดส่ง การ์ดดิจิทัลไม่สามารถเสียหายจากไฟหรือน้ำได้ นอกจากนี้ การ์ด NFT จำนวนมากยังมีคุณสมบัติแบบโต้ตอบหรือตั้งโปรแกรมได้อีกด้วย

การ์ดสะสมจริงเทียบกับการ์ดสะสมดิจิทัล NFT

การ์ดสะสมแบบจับต้องได้นั้นได้รับประโยชน์จากความรู้สึกคิดถึงอดีตและตลาดที่มีมายาวนาน มันจับต้องได้และคุ้นเคย แต่ก็อาจเสียหาย สูญหาย หรือถูกปลอมแปลงได้

การ์ดซื้อขาย NFT เป็นเพียงสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น สามารถจัดเก็บ โอน และแสดงผลได้ง่าย แต่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มและกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อความปลอดภัย ผู้ที่เริ่มใช้งานก่อนอาจได้รับผลตอบแทนสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าเช่นกัน

ประเภทของการ์ดสะสม NFT ที่คุณสามารถหาได้

ปัจจุบันมี NFT Trading Card หลายประเภทให้เลือกใช้

  • การ์ดสะสม NFT เน้นที่งานศิลปะและความสวยงาม
  • การ์ด NFT สำหรับเกมถูกนำไปใช้ในเกมไพ่และพื้นที่เกม NFT โดยที่การ์ดเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเล่นเกม
  • การ์ดสะสม NFT กีฬาเป็นตัวแทนของนักกีฬาหรือช่วงเวลาสำคัญ การ์ด NFT กีฬามักจะติดตามผลการแข่งขันในโลกแห่งความเป็นจริง
  • บัตรสมาชิก NFT ทำหน้าที่เป็นบัตรผ่านสำหรับเข้าถึงชุมชน กิจกรรม หรือสิทธิพิเศษต่างๆ

โครงการการ์ดสะสม NFT ที่น่าสนใจและคอลเลกชัน NFT ยอดนิยม

โครงการการ์ดสะสม NFT ยอดนิยม ได้แก่ NBA Top Shot, Axie Infinity, Gods Unchained, Sorare และ VeeFriends

Gods Unchained เป็นหนึ่งในเกมการ์ดสะสมแบบบล็อกเชนเกมแรกๆ เป็นเกมเล่นฟรีแบบผู้เล่นหลายคนบนบล็อกเชนที่ผู้เล่นเป็นเจ้าของไพ่ของตนเองอย่างแท้จริง ภายในปี 2025 Gods Unchained มีผู้เล่นที่เชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินดิจิทัลหลายล้านคน และยังคงเป็นหนึ่งในเกมการ์ดสะสม NFT ที่มีการทำธุรกรรมมากที่สุดในแต่ละวัน

Sorare เป็นเกมฟุตบอลดิจิทัลที่ใช้การ์ดผู้เล่น NFT ซึ่งเชื่อมโยงกับผลการแข่งขันในโลกแห่งความเป็นจริง แพลตฟอร์มนี้ได้ทำข้อตกลงด้านลิขสิทธิ์กับสโมสรฟุตบอลหลายร้อยแห่งทั่วโลก และภายในปี 2025 จะมีผู้ใช้งานจากกว่า 150 ประเทศ

NBA Top Shot มุ่งเน้นการซื้อขายกีฬาโดยการขายคลิปไฮไลท์จากเกม NBA ในรูปแบบของของสะสมดิจิทัล แม้หลังจากตลาดชะลอตัวลงแล้ว การ์ด NFT กีฬายังคงเป็นหนึ่งในหมวดหมู่ NFT ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อพิจารณาจากปริมาณการซื้อขาย

วิธีการซื้อขายการ์ด NFT ในตลาดซื้อขาย NFT

ในการซื้อขายการ์ด NFT ผู้ใช้จะเลือกตลาด NFT เชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัลที่รองรับบล็อกเชน และเรียกดูคอลเลกชันการ์ด เมื่อคุณพบการ์ด NFT ที่ต้องการแล้ว คุณสามารถซื้อ ขาย หรือแลกเปลี่ยนได้โดยตรง

วิธีสร้างคอลเลกชันการ์ดซื้อขาย NFT

การสร้างการ์ดสะสม NFT นั้นเกี่ยวข้องกับการวางแผนชุดสะสม การออกแบบการ์ด การเลือกบล็อกเชน การสร้างการ์ด และการลงรายการขายในตลาด NFT ค่าธรรมเนียมและขั้นตอนต่างๆ จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบล็อกเชนที่ใช้

วิธีแสดงการ์ด NFT ดิจิทัล

การ์ดซื้อขาย NFT สามารถแสดงบนโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ส่วนตัว กรอบรูปดิจิทัล หรือภายในแพลตฟอร์ม NFT ได้

เทคโนโลยีบล็อกเชนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของบัตร NFT

NFT เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการใช้พลังงาน แต่หลังจากที่ Ethereum เปลี่ยนมาใช้ระบบ Proof-of-Stake การใช้พลังงานก็ลดลงมากกว่า 99% ทำให้การ์ดซื้อขาย NFT มีความยั่งยืนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ภายในปี 2025 ตลาดซื้อขาย NFT หลักส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับบล็อกเชนที่ประหยัดพลังงาน และความยั่งยืนได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้สร้างที่เปิดตัวคอลเลกชันการ์ดซื้อขาย NFT ใหม่ๆ

ความท้าทายด้านความปลอดภัยในตลาดการ์ดซื้อขาย NFT

บัตร NFT มีความปลอดภัยบนบล็อกเชน แต่ผู้ใช้ต้องปกป้องกระเป๋าเงินของตนเอง หลีกเลี่ยงลิงก์ที่น่าสงสัย และพิจารณาใช้กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์สำหรับบัตรที่มีมูลค่าสูง

ภาษี กฎระเบียบ และความท้าทายในตลาดซื้อขาย NFT

การ์ดซื้อขาย NFT จัดเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อวัตถุประสงค์ทางภาษีในหลายภูมิภาค การซื้อ ขาย หรือสร้าง NFT อาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่ต้องเสียภาษี

กล่าวโดยสรุป การ์ดสะสม NFT ถือเป็นบทใหม่ในวิวัฒนาการของการ์ดสะสม มันผสมผสานวัฒนธรรมการซื้อขายแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชน สร้างของสะสมดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถซื้อขาย ใช้ และประเมินมูลค่าได้ในรูปแบบใหม่ทั้งหมด

การ์ดซื้อขาย NFT ในรูปแบบตัวเลข (2025)

ตลาดการ์ดสะสม NFT ได้ก้าวพ้นช่วงทดลองเบื้องต้นและเข้าสู่ระยะที่เติบโตเต็มที่แล้ว คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 ตลาดของสะสมดิจิทัลโดยรวมจะมีมูลค่าเกิน 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยการ์ดสะสม NFT จะมีส่วนช่วยในปริมาณการซื้อขายมากกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

การ์ด NFT ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา ยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งที่สุด การ์ด NFT กีฬาติดอันดับต้น ๆ ในด้านปริมาณการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น NBA Top Shot และระบบนิเวศของกีฬาแฟนตาซี การ์ดซื้อขาย NFT ที่เกี่ยวข้องกับเกมมีส่วนแบ่งการทำธุรกรรมรายวันจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเกมการ์ดบนบล็อกเชน

Ethereum ยังคงเป็นบล็อกเชนหลักสำหรับการซื้อขายการ์ด NFT โดยมีส่วนแบ่งการซื้อขาย NFT ประมาณ 60% ในปี 2025 ในขณะเดียวกัน เครือข่ายที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่น Solana และ Polygon ก็ยังคงดึงดูดผู้สร้างและผู้ค้าที่มองหาการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและถูกกว่า

การ์ด NFT เหมาะสำหรับใคร

การ์ดสะสม NFT ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน

นักสะสมต่างสนใจการ์ดซื้อขาย NFT เพราะการ์ดเหล่านี้มีความหายากที่พิสูจน์ได้ มีประวัติการเป็นเจ้าของที่โปร่งใส และมีสภาพคล่องทั่วโลกโดยปราศจากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาการ์ดจริง

นักเล่นเกมใช้การ์ดสะสม NFT เป็นสินทรัพย์ที่มีฟังก์ชันการทำงานภายในเกมบล็อกเชน ในเกมการ์ดสะสมและเกม NFT โดยทั่วไป การ์ดทำหน้าที่ทั้งเป็นของสะสมและเป็นเครื่องมือที่มีผลต่อการเล่นเกม

แฟนกีฬาต่างมีส่วนร่วมกับบัตรสะสมกีฬา NFT เพื่อเป็นเจ้าของช่วงเวลาที่น่าจดจำ ไฮไลท์ของนักกีฬา และของที่ระลึกดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตซึ่งเชื่อมโยงกับผลงานในโลกแห่งความเป็นจริง

แบรนด์และธุรกิจต่างๆ ใช้บัตรซื้อขาย NFT เพื่อสร้างโปรแกรมสะสมแต้ม สร้างระบบสมาชิกดิจิทัล และทดลองรูปแบบใหม่ๆ ของการมีส่วนร่วมกับลูกค้าโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการ์ดสะสม NFT

การ์ดสะสม NFT มักถูกเข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ที่เพิ่งเข้ามาในวงการ NFT

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยอย่างหนึ่งคือ การ์ด NFT เป็นเพียงรูปภาพเท่านั้น ในความเป็นจริง รูปภาพเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสินทรัพย์เท่านั้น การเป็นเจ้าของ ความหายาก และการโอนย้ายได้นั้นถูกกำหนดโดยเทคโนโลยีบล็อกเชน

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดคือ การ์ดซื้อขาย NFT ไม่มีมูลค่าที่แท้จริง เช่นเดียวกับการ์ดสะสมแบบดั้งเดิม มูลค่าของมันขึ้นอยู่กับความต้องการ ความหายาก และประโยชน์ใช้สอย การ์ดบางใบอาจล้มเหลว ในขณะที่บางใบอาจรักษามูลค่าหรือเพิ่มมูลค่าขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่า NFT เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมโดยปริยาย แต่หลังจากที่ Ethereum เปลี่ยนมาใช้ระบบ Proof-of-Stake ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของบัตรซื้อขาย NFT ก็ลดลงอย่างมาก

เคล็ดลับเชิงปฏิบัติสำหรับการซื้อขายการ์ด NFT

การซื้อขายการ์ดสะสม NFT นั้นง่าย แต่ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงได้

ผู้ใช้ใหม่ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการก่อนซื้อ NFT เสมอ การตรวจสอบทีมงาน แผนงาน และกิจกรรมของชุมชนจะช่วยหลีกเลี่ยงคอลเลกชันคุณภาพต่ำหรือที่ถูกทิ้งร้างได้

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือการทำความเข้าใจรูปแบบการกำหนดราคา การลงประกาศขายในราคาคงที่ให้ความแน่นอน ในขณะที่การประมูลอาจนำไปสู่การจ่ายเงินเกินราคาในช่วงที่สินค้ามีกระแสความนิยมสูง

ความปลอดภัยของกระเป๋าเงินดิจิทัลมีความสำคัญไม่แพ้สภาพของบัตรในการซื้อขายจริง การใช้กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์และการหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงที่น่าสงสัยสามารถป้องกันการสูญหายโดยไม่ตั้งใจได้

สถานการณ์จริงของการ์ดซื้อขาย NFT

แฟนกีฬาอาจซื้อคลิปไฮไลท์ NBA Top Shot เพื่อสะสมไฮไลท์ของนักกีฬาคนโปรด และนำไปแลกเปลี่ยนในช่วงที่มีความต้องการสูง

ผู้เล่นเกม Gods Unchained สามารถซื้อการ์ด NFT เพื่อสร้างเด็คที่แข็งแกร่งขึ้น และรับรางวัลจากการแข่งขันในขณะที่ยังคงเป็นเจ้าของสิทธิ์ในการ์ดเหล่านั้น

นักสะสมที่เน้นแบรนด์อาจถือบัตรสมาชิก NFT ที่ให้สิทธิ์เข้าถึงก่อนใคร สินค้าพิเศษ หรือคำเชิญเข้าร่วมงานอีเวนต์ในโลกแห่งความเป็นจริง

สถานการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการ์ดซื้อขาย NFT ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังใช้เพื่อความบันเทิง การเข้าถึงชุมชน และการมีส่วนร่วมในระยะยาวอีกด้วย

Ready to Get Started?

Create an account and start accepting payments – no contracts or KYC required. Or, contact us to design a custom package for your business.

Make first step

Always know what you pay

Integrated per-transaction pricing with no hidden fees

Start your integration

Set up Plisio swiftly in just 10 minutes.